‘ประยุทธ์’ ขอประชาชนเลือก นักปฏิบัติ เข้าเป็น ผู้ว่ากรุงเทพ

‘ประยุทธ์’ ขอประชาชนเลือก นักปฏิบัติ เข้าเป็น ผู้ว่ากรุงเทพ

ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ วอนขอให้ประชาชนเลือก นักปฏิบัติ แก้ปัญหาได้จริง ทำงานได้สำเร็จ เข้าเป็น ผู้ว่ากรุงเทพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ กรณีการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพ ที่จะเปิดให้มีการลงสมัครในวันพรุ่งนี้ หรือวันที่ 31 มี.ค. ถึงวันที่ 4 เม.ย. นี้

โดยนายกฯระบุว่า เขาคงไม่ได้เชียร์ตน กองเชียร์ก็คงไปเชียร์คนรับสมัครเลือกตั้งใช่หรือไม่ 

ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนใช้สติและปัญญาในการใคร่ครวญการเลือกใครอะไรต่างๆก็ตาม สิ่งสำคัญคือคนที่จะเข้ามารับหน้าที่เหล่านั้นเป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นคนที่เป็นแบบอย่างสังคมหรือไม่ เป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีหรือไม่ เรื่องความความสามารถโอเคทุกคนเข้าเกณฑ์หมด

“อย่างที่ผมได้กล่าวมาแล้วว่าการคิดกับการพูดฟังแล้วดูดี ถ้าเทียบกับการที่ผมพูด หลายคนบอกผมพูดได้ไม่ดี แต่ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่พูดกับสิ่งที่คิดมันทำได้จริงหรือไม่ และสิ่งที่เขาทำมาจนถึงทุกวันนี้มันอยู่ตรงไหน ฉะนั้นถ้าจะหาเสียงลองถามต่อไปซิว่าของเดิมที่ทำมาแล้วมีอะไรบ้าง รู้หรือยัง และจะทำอะไรต่อ หรือจะทำอะไรใหม่

ถ้ามารื้อทิ้งทั้งหมดถามว่าจะไปได้อย่างไร เหมือนตึก ต้นไม้ ที่ต้องมีรากฐาน โตขึ้นมาเป็นต้นไม้มีดอกผล มีลูกหลาน เจริญเติบโตออกมาจากไหน มันมาจากรากฐาน มาจากพ่อแม่ ฉะนั้นผมไม่อยากให้ทุกคนลืมรากเหง้าของตนเอง รากเหง้าของประเทศไทย ไม่งั้นมันอยู่ไม่ได้ ต้นไม้ทุกต้นก็ต้องพร้อมตาย สังคมก็ล่มอะไรก็ล่มไปหมด เราต้องการแบบนั้นหรือ ผมพยายามทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดนั่นแหละ ถึงแม้ว่าจะมีคนโจมตีว่าอะไรต่างๆผมไม่โกรธ และโกรธไม่ได้ เพราะผมทำให้เขาถูกใจไม่ได้ทั้งหมด แต่ผมจำเป็นต้องทำเพื่อคนส่วนใหญ่ให้มากที่สุด ก็ถ้ามีโอกาสก็ทำต่อไป ไม่มีโอกาสก็กลับบ้านนอนเท่านั้นเอง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังอย่างยิ่งใครจะได้ตำแหน่งหรือเป็นอะไรขึ้นมา ขอให้ทำให้สำเร็จ แล้วเข้ามาแก้ปัญหาที่ตนเจอมาหลายร้อยปัญหาและพยายามแก้มา และขอให้แก้ให้ได้จริงก็แล้วกัน และขอฝากถึงประชาชนเราต้องเลือกนักปฏิบัติที่ทำงานได้จริง ทำงานได้สำเร็จ มีผลงานปรากฎไม่ว่าจะอาชีพใดก็แล้วแต่ ที่ผ่านมาสำเร็จหรือไม่สำเร็จซึ่งเป็นสิทธิ์ของท่าน 1 สิทธิ์ 1 เสียงอยู่แล้ว อย่าเอาผมเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลยนะ ขอบคุณนะครับ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมเดินออกจากโพเดี้ยม โดยระหว่างก้มหน้าเดินพล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวย้ำว่า “กลับบ้านนอน”

‘อนุทิน’ สั่ง สสส. รณรงค์งด ดื่มแอลกอฮออล์ ช่วง สงกรานต์ หวั่นโควิดระบาด

อนุทิน สั่ง สสส. รณรงค์ให้ลดการดื่มแอลกอฮออล์ ในช่วงเทศกาล สงกรานต์ ลดความเสี่ยงโควิดรวมถึงลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วย นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมมนตรีกระทรวงสาธารณรสุขได้อกอมาแสดงความห่วงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ว่าตนได้ขอให้ สสส.รณรงค์ให้เกิดการลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ควบคู่กับรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ” ป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน และป้องกันโควิดระบาด

“ประเทศไทยมีผู้ได้รับวัคซีนโควิดรวมกว่า 130 ล้านโดส ทางการแพทย์ถือว่าครอบคลุมกลุ่มประชากร แต่ยังมีผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ที่ สธ.ยังต้องทำงานเชิงรุกรณรงค์และทำความเข้าใจเรื่องวัคซีนต่อไป เพื่อให้คนกลุ่มนี้เห็นความสำคัญของการรับวัคซีน

ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมประกาศและปรับโควิดเป็นโรคประจำถิ่น โดย สสส. มีส่วนทำให้เกิดมาตรการต่างๆ ทางตรงและทางอ้อม จึงขอให้ สสส.ขับเคลื่อนนำเสนอ รณรงค์และสร้างสังคมแห่งการมีสุขภาวะที่ดีต่อไป” นาอนุทิน กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย โพลสำรวจความพอใจรัฐบาล ของประชาชน พบไม่พอใจรัฐบาลแค่ร้อยละ 6.3 ชี้ประชาชนชอบคนละครึ่งสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้สัมภาษณ์สมาชิกในครัวเรือนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศจำนวน 6,970 คน ระหว่างวันที่ 5-18 ม.ค. 2565 พบว่า

ในประเด็นเรื่องการติดตามข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล ประชาชนร้อยละ 83.7 ติดตามข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล ร้อยละ 16.3 ไม่ติดตาม เหตุผลคือไม่สนใจ ไม่มีเวลาว่าง และอื่นๆ เช่น ไม่ชอบ โดยติดตามทางโทรทัศน์มากที่สุดร้อยละ 71.8 รองลงมาคือสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ และยูทูบ ร้อยละ 55.5 ทั้งนี้ ผู้ที่มีอายุน้อยติดตามจากสื่อสังคมออนไลน์สูงกว่าผู้มีอายุมาก และผู้มีการศึกษาสูงได้ติดตามจากสื่อสังคมออนไลน์สูงกว่าผู้มีการศึกษาต่ำกว่า

สำหรับความพึงพอใจในภาพรวมต่อการดำเนินงานของรัฐบาล พบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก-มากที่สุดร้อยละ 33.9 พึงพอใจระดับปานกลางร้อยละ 40.9 พึงพอใจในระดับน้อย-น้อยที่สุดร้อยละ 18.9 และไม่พึงพอใจเลยร้อยละ 6.3 โดยภาคใต้และภาคใต้ชายแดนมีความพึงพอใจในระดับมาก-มากที่สุด สูงกว่าภาคอื่นคือร้อยละ 57.9 และร้อยละ 54.5 ตามลำดับ ขณะที่ภาคอื่นมีประมาณร้อยละ 26-35

กลยุทธ์ที่ 6 สร้างค่านิยมเพื่อลดการดื่ม เช่น โครงการสื่อสาร รณรงค์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่แสดงถึงผลกระทบต่อตนเองและสังคมจากการดื่มแอลกอฮอล์ โครงการสร้างทางเลือก มาตรการเชิงบวก และเพิ่มโอกาสในการไม่ดื่ม งบประมาณ 47.60 ล้านบาท

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป