‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ คึกคัก สร้างเงินหมุนเวียนกว่า 32,600 ล้านบาท

‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ คึกคัก สร้างเงินหมุนเวียนกว่า 32,600 ล้านบาท

เพจเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” โพสต์ ภูเก็ตเเซนด์บ็อก สร้างรายได้กว่า หมื่นล้านบาท คาดว่าสิ้นเดือน ม.ค. จะมีคนมาเที่ยวภูเก็ต 80,000-100,000 คน วันนี้ 26 ม.ค. 65 เพจเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” รายงาน ผลตอบรับจากนโยบายการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตของรัฐบาล ด้วยโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเศรษฐกิจนับหมื่นล้าน

พร้อมคาดว่า สิ้นเดือนมกราคมนี้ เศรษฐกิจน่าจะกลับมาคึกคักเพราะ 

สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น อาจมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตเยอะถึง 80,000-100,000คนเลยทีเดียว โดยโพสต์ระบุรายละเอียดว่า ““ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” คึกคัก! ยอดนักท่องเที่ยวสะสม 248,497 คน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 32,600 ล้านบาท

จังหวัดภูเก็ต เผย จากนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาลด้วยโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นมา ล่าสุดมียอดนักท่องเที่ยวเดินทางสะสม 248,497 คน

กลุ่มประเทศหลัก คือ รัสเซีย เยอรมนี อังกฤษ สวีเดน ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 8 คืน/คน ค่าใช้จ่ายต่อทริป 55,000 บาท/คน สร้างรายได้ราว 13,762.56 ล้านบาท คิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 32,617.26 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย เดือน ม.ค. 65 มียอดเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตแล้วกว่า 50,000 คน และหากสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลง คาดว่าภายในสิ้นเดือน ม.ค. จะมีคนไทยมาเที่ยวภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 80,000 – 100,000 คน ช่วยสร้างรายได้ให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

#ไทยคู่ฟ้า #ร่วมต้านโควิด19

ในอนาคตเชื่อว่าการศึกษาภูมิต้านทานแบบลูกผสม น่าจะช่วยในการสนับสนุน ป้องกันการกลายพันธุ์ของไวรัส เพราะระบบภูมิต้านทานในการต่อสู้กับไวรัส ไม่มีเฉพาะแค่หนามแหลมสไปท์อย่างเดียวเท่านั้น

บ้านเรามีวัคซีนหลากหลายมาก การใช้วัคซีนแบบลูกผสม อาจจะดีต่อไวรัสกลายพันธุ์ก็ได้”

ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาอัตราที่จะเยียวยา ต้องรอดูจำนวนผู้ที่เข่าข่ายได้รับการเยียวยา ดังนั้นจึงมอบหมายให้ผู้แทนสถานประกอบกิจการสถานบันเทิงทำการสรุปตัวเลขแรงงานกลุ่มนี้เพื่อนำเข้าประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ จากนั้นจึงจะนำเข้าหารือร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อขอจากงบประมาณเงินกู้ต่อไป เบื้องต้นคาดว่าแรงงานกลุ่มนี้มีประมาณหลักแสนคน

ขณะที่การเยียวยานายจ้างนั้นไม่มีปัญหาเนื่องจากก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงานมีโครงการช่วยเหลือ SME โดยช่วยจ่ายค่าจ้างหัวละ 3,000 บาทอยู่แล้ว

พระนรวิชญ์ สึกแล้ว หลังเสร็จพิธีศพ หมอกระต่าย

พระนรวิชญ์ พร้อมพระพ่อ สึกแล้ว หลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิง หมอกระต่าย ท่ามกลางสื่อมวลชนรอทำข่าวจำนวนมาก หลังจากที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ขี่บิ๊กไบค์พุ่งชน “หมอกระต่าย” พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังจากกลายเป็นข่าวดัง ทางผู้ก่อเหตุและครอบครัวก็ได้ ออกมากล่าวขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ยังได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดปริวาสราชสงคราม ย่านพระราม 3 เพื่อตั้งใจจะอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่ หมอกระต่าย อย่างไรก็ตามปมห่มผ้าเหลืองของนายตำรวจนี้เองที่ทำให้กระแสสังคมไม่ยอมรับ

จนเกิดคำถามว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ กับการที่คนร้ายก่อคดีจะเข้ารับการบวชเป็นพระ กระทั่งในที่สุด เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันนี้ (26 ม.ค.65) ที่วัดปริวาสราชสงคราม หลังจากไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิง หมอกระต่าย พระนรวิชญ์และพระพ่อทำพิธีลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาไม่นานเพียงไม่เกินครึ่งชั่วโมง เมื่อลาสิกขาแล้ว ทั้งสองก็ยังตั้งใจถือครองศีลอยู่ในชุดขาว เพื่ออุทิศบุญกุศลให้หมอกระต่าย โดยไม่ได้ระบุว่าหลังจ่ากนี้จะถือศีลนานเท่าไหร่

ทั้งนี้ ในเรื่องของการบวชพระของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ นั้น ก่อนหน้านี้ ทางนายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว 7HDร้อนออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่าสมควรหรือไม่ โดยหลังจากพิจารณาตามพระธรรมวินัยแล้ว กรณีนี้ถือว่าไม่สามารถเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเป็นพระได้ เพราะเป็นผู้ต้องคดีอาญาที่ยังไม่สิ้นสุด ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ได้แจ้งให้เจ้าคณะปกครองในพื้นที่ เข้าไปทำความเข้าใจกับพระอุปชาแล้ว

เช่นเดียวกับทาง พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าววานนี้ (25 ม.ค.65) ว่า หลังจากเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพ หมอกระต่าย ส.ต.ต.นรวิชญ์ จะลาสิกขาทันที และเตรียมเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมตามกฎหมายต่อไป

ส่วนเรื่องการพิจารณาให้เปิดดำเนินกิจการนั้น คาดว่าบางธุรกิจกลางคืนน่าจะมีบางประเภทคุยได้ มีทางออกได้ แต่ต้องไปชี้แจงเหตุผล เช่น โรงแรม ห้องอาหาร ที่จะมีการเล่นดนตรีบ้าง ซึ่งต้องอธิบายได้ว่าไม่ใช่ผับ เธค โดยส่วนนี้ต้องไปพูดคุยกับ ศบค.

เราหวังว่าเราจะสามารถขับเคลื่อนสังคมจากความมุ่นมั่นตั้งใจไปสู่การปฏิบัติจริงได้ ด้วยการขยายการเข้าถึงข้อมูลที่เชื่อถือได้ การส่งเสริมการพูดคุยและกำหนดวาทกรรมสาธารณะ เพื่อสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีและครอบคลุมทุกคนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”