ขณะนี้ชาวซีเรียราว 6 ใน 10 คนต้องพลัดถิ่นจากที่อยู่อาศัย

ขณะนี้ชาวซีเรียราว 6 ใน 10 คนต้องพลัดถิ่นจากที่อยู่อาศัย

ความขัดแย้งในซีเรียทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่นจากบ้าน นับตั้งแต่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลอัล-อัสซาดเริ่มขึ้นเมื่อกว่า 5 ปีที่แล้ว ขณะนี้ชาวซีเรียประมาณ 12.5 ล้านคนต้องพลัดถิ่น ซึ่งคิดเป็นประมาณ 6 ใน 10 ของจำนวนประชากรในช่วงกลางปี ​​2554 ของประเทศ และเพิ่มขึ้นจากจำนวนที่น้อยกว่า 1 ล้านคนในปี 2554 จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ลี้ภัยทั่วโลกของ Pew Research Centerชาวซีเรีย 12.5 ล้านคนต้องพลัดถิ่นจากบ้านของพวกเขาการพลัดถิ่นของชาวซีเรียไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสำหรับประเทศใดประเทศหนึ่ง จากการวิเคราะห์ข้อมูลสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ของเราพบว่า ตัวอย่างเช่น ความขัดแย้งในอัฟกานิสถานระหว่างการรุกรานของโซเวียตในทศวรรษที่ 1980 ส่งผลให้ประชากรประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศต้องพลัดถิ่นภายในหรือนอกพรมแดน ประชากรน้อยกว่าหนึ่งในห้าของอิรักต้องพลัดถิ่นเมื่อความรุนแรงเพิ่มขึ้นในปี 2550 และ 2551 และชาวรวันดามากกว่า 2.5 ล้านคนหรือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดต้องพลัดถิ่นระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในปี 2537

ประมาณการก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2014 พบว่าประมาณ

ครึ่งหนึ่งของประชากรก่อนความขัดแย้งของซีเรียต้องพลัดถิ่น ส่วนแบ่งดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 60% เนื่องจากชาวซีเรียมากกว่าหนึ่งล้านคนข้ามพรมแดนระหว่างประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ตุรกี หรือออกไปยังจุดหมายปลายทางที่ห่างไกลกว่าในยุโรป

ในช่วงต้นของความขัดแย้ง ชาวซีเรียผู้พลัดถิ่นส่วนใหญ่ได้ย้ายถิ่นฐานภายในซีเรีย ในปี 2554 ชาวซีเรียประมาณ 600,000 คน หรือประมาณ 3% ของประชากรในขณะนั้น ต้องพลัดถิ่นภายในประเทศ ภายในสิ้นปี 2555 หลังจากสงครามกลางเมืองเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง จำนวนดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านคน

ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2555 ผู้พลัดถิ่นชาวซีเรียจำนวนมากอาศัยอยู่นอกประเทศ รวมถึงกว่าครึ่งล้านคนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ตุรกี เลบานอน จอร์แดน อิรัก และอียิปต์ ภายในสิ้นปี 2556 จำนวนชาวซีเรียที่อาศัยอยู่ในประเทศเหล่านี้และแอฟริกาเหนือเพิ่มขึ้นมากกว่าสี่เท่าเป็น 2.3 ล้านคน นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอลี้ภัยจากซีเรียที่อาศัยอยู่ในยุโรปเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 79,000 คน

จำนวนผู้พลัดถิ่นชาวซีเรียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2557 และ 2558 จากนั้นการเปลี่ยนแปลงการย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ได้เริ่มขึ้น โดยจำนวนผู้พลัดถิ่นชาวซีเรียที่อาศัยอยู่นอกประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าจำนวนผู้พลัดถิ่นภายในพรมแดนของประเทศ แท้จริงแล้ว ระหว่างปี 2556 ถึงกลางปี ​​2559 สัดส่วนของผู้พลัดถิ่นชาวซีเรียที่อาศัยอยู่นอกบ้านเกิดเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่า จาก 27% เป็น 47% อย่างไรก็ตาม ผู้พลัดถิ่นชาวซีเรียในซีเรียยังคงเป็นคนส่วนใหญ่

สื่อตะวันตกได้ให้ความสำคัญกับการอพยพ

ของชาวซีเรียไปยังยุโรป นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งในซีเรีย จำนวนชาวซีเรียทั้งหมดที่ยื่นขอลี้ภัยในประเทศสหภาพยุโรป นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 700,000 คน ซึ่งมากกว่าในปี 2556 เกือบ 10 เท่า รวมถึงชาวซีเรีย 300,000 คน ที่ UNHCR ประเมินว่าจะยื่นคำร้อง สำหรับการขอลี้ภัยในเซอร์เบีย จำนวนผู้ขอลี้ภัยในยุโรปมีจำนวนรวมมากกว่า 1 ล้านคนภายในกลางปี ​​2559

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้พลัดถิ่นชาวซีเรียในประเทศและในประเทศเพื่อนบ้านมีจำนวนมากเกินกว่าจำนวนในยุโรป ณ กลางปี ​​2559 ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียประมาณ 4.8 ล้านคนอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยผู้ลี้ภัยเกือบ 4 ใน 10 ของประเทศอาศัยอยู่ในตุรกี เลบานอน จอร์แดน อียิปต์ หรืออิรัก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียราวครึ่งหนึ่งได้ย้ายถิ่นฐานภายในประเทศ และตอนนี้มีไม่ถึง 1 ใน 10 ที่อาศัยอยู่ในยุโรป ในขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ให้คำมั่นว่าจะย้ายผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 10,000 คนไปตั้งถิ่นฐานใหม่ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2559 ตั้งแต่ต้นปี 2559 มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเพียง 2,131 คนเท่านั้นที่ได้รับการตั้งถิ่นฐานใหม่ในสหรัฐอเมริกา โดยมีจำนวนมากขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม2559ในปีที่แล้วรวมกัน

การประมาณการจำนวนผู้พลัดถิ่นชาวซีเรียทั้งหมดอ้างอิงจากข้อมูลล่าสุดจากปฏิบัติการในซีเรียของ UNHCR ข้อมูลทั่วโลกของ UNHCRศูนย์ติดตามการพลัดถิ่นภายในประเทศสัญชาติและการย้ายถิ่นฐานของแคนาดากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯและEurostat ซึ่งเป็นหน่วยงานทางสถิติของยุโรป เป็นไปได้ที่การประมาณจำนวนผู้พลัดถิ่นชาวซีเรียจะสูง ตัวอย่างเช่น ผู้ลี้ภัยจะถูกนับสองครั้งเมื่อย้ายจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง การประมาณการอาจต่ำเช่นกัน เนื่องจากจำนวนผู้พลัดถิ่นภายในประเทศไม่เป็นที่รู้จักในบางภูมิภาคของซีเรีย และผู้ลี้ภัยบางส่วนในประเทศเพื่อนบ้านอาจไม่ได้ลงทะเบียนกับ UNHCR

ฝาก 20 รับ 100